วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจในจังหวัดชลบุรี

สัญญลักษณ์ประจำจังหวัดชลบุรี


ภูเขา หมายถึง เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวชลบุรี ตลอดถึงประชาชนทั่วไป ที่เคยเดินทางไปมาแถบนั้น เชื่อถือว่า ศาลเจ้าแม่สามมุข สามารถให้ความคุ้มครองชาวชลบุรี และผู้ที่เคารพกราบไหว้ให้พ้นจากภยันตรายต่างๆ ได้ โดยเฉพาะการออกไปประกอบอาชีพจับปลาในท้องทะเล เขาสามมุขจึงเป็นสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของชลบุรี




ประวัติจังหวัดชลบุรี

ดินแดนที่เรียกว่าจังหวัดชลบุรี มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ ในปี 2522 ได้มีการขุดค้นทางโบราณคดี ที่ตำบลพนมดี อ.พนัสนิคม ได้พบร่องรอยของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ โคกพนมดี คือ สิ่งที่นักโบราณคดี เรียกว่า เชลล์ มาวด์ (Shell Mould) ซึ่งที่โคกพนมดเป็นเชลล์ มาวด์ที่ใหญ่โตที่สุดซึ่งยังไม่เคยพบในประเทศทางเอเชียอาคเนย์อื่น ๆ เลย ("ร่องรอยของชุมชนโบราณที่ลุ่มแม่น้ำพานทอง : เมืองโบราณ 3 : 39-40, กุมพาพันธ์ - มีนาคม 2522) จากหลักฐานทางโบราณวัตถุสถาน ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ภายในกรอบเนื้อที่ 4,363 ตารางกิโลเมตร ของเมืองชลบุรีในอดีต เคยเป็นที่ตั้งชุมชนหรือเมืองโบราณที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ 2 เมือง และนับว่าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏหลักฐาน คือ

เมืองศรีพะโร
ตั้งอยู่บริเวณบ้านอู่ตะเภา ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี หน้าเมืองมีอาณาเขตจดที่ ตำบลบางทรายในปัจจุบัน เคยมีผู้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปทองคำ สัมฤทธิ์ แก้วผลึก ขันทองคำ ถ้วยชามสังคโลก คล้ายของสุโขทัย จระเข้ปูน ก้อนศิลามีรอยเท้าสุนัข เป็นต้น เมืองศรีพะโรนี้ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นเมืองในสมัยขอมยังเรืองอำนาจอยู่ในภูมิภาคนี้ อาจจะรุ่นราวคราวเดียวกับสมัยลพบุรีซึ่งอยู่หลังยุคอู่ทอง และก่อนยุคอยุธยาคือประมาณ พ.ศ.1600-1900

เมืองพระรถ
เป็นเมืองโบราณยุคเดียวกันกับเมืองศรีพะโรหรือก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะปรากฏว่ามีทางเดิน โบราณติดต่อกันได้ระหว่าง 2 เมืองนี้ ในระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรและน่าเชื่อต่อไปว่าเมืองพระรถแห่งนี้ คงอยู่ในสมัยเดียวกันกับเมืองพระรถหรือเมืองมโหสถ ที่ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปัจจุบันอีกด้วยเมื่อ พ.ศ.2472 ได้มีผู้ขุดพบพระพุทธรูป "พระพนัสบดี" ได้ที่บริเวณตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอ พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นพระพุทธรูปจำหลักจากศิลาดำ เนื้อละเอียด นักโบราณคดีกำหนดว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี พระพุทธรูปที่มีลักษณะเช่นพระพนัสบดีนี้ มีอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครหลายองค์ ทุกองค์งามสู้พระพนัสบดีองค์ที่ขุดพบนี้ไม่ได้ พระพนัสบดีมีพุทธลักษณะแปลกกว่าพระพุทธรูปอื่นๆ คือ เป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนบนดอกบัว ยกพระหัตถ์ทั้งสองเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์ทั้งสอง เช่น พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา บนฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองมีลายธรรมจักร เบื้องพระปฤษฎางค์มีประภามณฑล ประทับยืนบนสัตว์ที่แปลกพิเศษกว่าสัตว์ทังหลาย เป็นภาพสัตว์ที่เกิดจากจินตนาการประติมากรผู้สร้างพระพุทธรูป คือ นำโค ครุฑ หงส์ มารวมเป็นสัตว์ตัวเดียวกัน สัตว์นั้นหน้าเป็นครุฑ เขาเป็นโค ปีกเป็นหงส์ โค ครุฑ หงส์ เป็นพาหนะของเทพเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวรทรงโค พระนารายณ์ทรงครุฑ พระพรหมทรงหงส์ เมื่อรวมเข้ากันจึงเป็นสัตว์พิเศษที่มีเขาเป็นโค มีจงอยปากเป็นครุฑ และมีปีกเป็นหงส์ ผู้สร้างอาจหมายถึงพระพุทธเจ้าอาศัยศาสนาพราหมณ์เป็นพาหนะ ในการประกาศพระศาสนา หรือหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงชัยชนะแล้วซึ่งศาสนาพราหมณ์ก็ได้ พระพนัสบดีที่ขุดพบนี้ สูง 45 เซนติเมตร สมัยพระยาพิพิธอำพลเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นอกจากมีการขุดพบกรุพระพิมพ์เนื้อตะกั่ว สนิมแดง คราบไขขาว เมื่อ พ.ศ. 2460 ที่บริเวณ หน้าพระธาตุ มีพระพุทธลักษณะเช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืนสวรรคโลก พระร่วงหลังลายผ้าลพบุรี เป็นพุทธศิลปสมัยทวารวดี พระเนตรโปนประหนึ่งตาตั๊กแตน ไม่ทรงเครื่องอลังการ พระเศียรไม่ทรงเทริดพระหัตถ์ขวา หงายทาบพระอุระ มีดอกจันทน์บนฝ่าพระหัตถ์ อาณาจักรพระเครื่องถวายนามว่า พระร่วงหน้าพระธาตุ มี 2 พิมพ์ คือ ชายจีวรแผ่กว้าง และชายจีวรธรรมดา องค์พระกว้าง 2 เซนติเมตร นับเป็นกรุพระที่เลื่องชื่อลือชาในอาณาจักรพระเครื่องยิ่งนัก นอกจากนั้น ยังขุดพบพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และพระพิมพ์เนื้อดินดิบขนาดใหญ่ บริเวณหน้า พระธาตุ วัดกลางคลองหลวง ฯลฯ โบราณวัตถุที่ขุดพบส่วนใหญ่ เป็นศิลปสมัยทวารวดี

ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจของจังหวัดชลบุรี ดังนี้.-

ความประทับใจครั้งที่ 1




สวนเสือศรีราชา


ประวัติความเป็นมา
สวนเสือศรีราชา จัดตั้งขึ้นบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2540 ณ กิโลเมตรที่ 9 เลขที่ 341 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งห่างจากสวนสัตว์เดิมเพียง 1 กิโลเมตร โดยจัดการดำเนินงาน และเตรียมแผนงานอย่างมีมาตราฐาน เพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ซึ่งในปัจจุบันเสือโคร่งพันธุ์ เบงกอล และจระเข้ที่เพาะเลี้ยงโดยสวนเสือศรีราชานั้นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น มากมาย ซึ่งมีเสือโคร่งพันธุ์เบงกอล 200 กว่าตัว และจระเข้มีถึง 100,000 กว่าตัว นอกเหนือสัตว์นานาชนิด แล้วสวนเสือศรีราชายังได้มีกิจกรรมการแสดงต่างๆไว้มากมายให้ท่านได้เพลิดเพลินและประทับใจยิ่ง

การแสดงโชว์ที่สวนเสือศรีราชา



โชว์ละครสัตว์ "อะเมซิ่งเซอคัส" เป็นการแสดงความสามารถของสัตว์ ประกอบด้วยการแสดงของเสือโคร่ง หมี ลิงชิมแพนซี โจ๊กเกอร์โชว์ ชมความสามารถของเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลที่มาโชว์ความสามารถลอดบ่วงไฟ เดินบนสะพานเชือก ทำตามคำสั่งของครูฝึก และอีกหลายความสามารถโชว์แสดงในโรงละครสัตว์ที่สามารถบรรจุนักท่องเที่ยวได้กว่า1,500 คน



โชว์จระเข้ กับความสามารถของผู้หญิงสาวสวย(ไกรทองหญิง) ที่จะมาท้าทาย และจับจระเข้ด้วยมือเปล่า กับโชว์ความสามารถที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย พบโชว์แสดงวันละหลายรอบ




โชว์ช้าง ชมความสามารถของฝูงช้าง และ ลูกช้างแสนรู้ ที่จะมาแสดงความน่ารัก ความสามารถต่างๆ ชมแล้วจะต้องประทับใจ



ตารางรายการแสดงโชว์ที่สวนเสือศรีราชา




การเดินทางไปสวนเสือศรีราชา
ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตรที่ 9 เลขที่ 341 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3241 ประมาณ 10 กิโลเมตร
การเปิดให้บริการ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวสวนเสือศรีราชา คือ 08.00 – 18.00 น. (ทุกวัน)
ค่าใช้จ่าย
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 150 บาท


หมายเลขโทรศัพท์ : +66 (0) 3829 6556 - 8
หมายเลขโทรสาร : +66 (0) 3829 6559


แผนที่การเดินทาง




เข้าสู่เว็บไซด์สวนเสือศรีราชา คลิกที่นี่ http://www.tigerzoo.com



ความประทับใจครั้งที่ 2


บ้านสุขาวดี




เป็นคฤหาสน์ริมทะเลพัทยา ตั้งอยู่บริเวณชายทะเล อำเภอบางละมุง บนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ตัวบ้านเป็นสถาปัตถกรรมประยุกต์แบบโรมันที่ใช้โทนสีชมพูและฟ้าเป็นหลัก ภายในมีการตกแต่งที่หรูหรา ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นสไตล์ยุโรป เปิดให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจเข้าชม บ้านสุขาวดีเป็นบ้านของคนไทย โดยเจ้าของคือ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ เจ้าของธุรกิจสหฟาร์ม




ประวัติของบ้านสุขาวดี
บ้านสุขาวดี เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2543 บนเนื้อที่ 12 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 129 ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางละมุง ประมาณ 1 กิโลเมตร มีชายหาดยาว 400 เมตร ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 80 ไร่

บ้านสุขาวดีเปิดกว้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ผู้มีโอกาสได้มาสัมผัสเป็นเจ้าของร่วมกันและได้ค้นพบถึงสัจธรรมในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ควรสักการะ อาทิ เช่น พระพุทธเจ้าปางประสูติ , พระแม่กวนอิม , พระเจ้าตากสินมหาราช , รัชกาลที่ 5 , กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือพระบิดาแห่งราชนาวีไทย เป็นต้น ทุกสิ่งทุกอย่างในสถานที่แห่งนี้ถูกกำหนดขึ้นอย่างมีดีไซน์ ประกอบด้วยศาสตร์ และศิลป์อย่างลงตัว สมดุล และมีเหตุมีผล ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ แวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้ และภูมิทัศน์ที่งดงาม และยังมีอาคารโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ด้วยอำนาจของความรัก ความเมตตา ของผู้สร้างซึ่งไม่เคยยอมแพ้และไม่ยอมให้ความจนเป็นข้อจำกัดในชีวิต ขอให้สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจ หรือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแง่คิดที่จะนำพาท่านไปสู่จุดหมาย” ดร.ปัญญา



บ้านสุขาวดี ประกอบด้วยอาคารหลักๆ ดังนี้

1. อาคารพระแม่กวนอิม (Main building & Goddess of Mercy)

2. อาคารโดมพระ (Buddha tower)

3. ศาลหลักเมือง (Sukhawadee?s Pillar Shrine)

4. ความลับสวรรค (Yin – Yang Zone)
5. อาคารพุทธบารมี (Buddhabaramee/Convention Hall) / เวที่เฉลิมพระเกียรติ (Royal Chalermprakiet stage)

6. โดมละหมาด (Salah Dome ) / อาคารไอริสโซเฟีย (Airis Sophia?s souvenir shop )

7. ฟาร์มสเตชั่น (Saha Farm Station)

8. จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม ( Saha Farm Kitchen & Restaurant)

9. อาคารสโมสร (Club House)

10. อาคารสัจธรรม (Hall of Truth)


ทั้งนี้ บ้านสุขาวดีเปิดให้บุคคลภายนอก เข้าไปเที่ยวชมความงามในวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์
เวลา 08.30 – 18.00 น. เฉพาะบริเวณด้านนอกของบ้าน แต่ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดให้เข้าชมภายในตัวบ้าน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. และยังสามารถขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อเข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งได้รับการล่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์ขอพรสิ่งใดก็ได้ดังปรารถนา

อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ – บุคคลทั่วไป 200 บาทเยาวชน นักเรียน นักศึกษา 50 บาทนักบวช พระภิกษุสงฆ์ และเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร ไม่เสียค่าผ่านประตู

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 01-572-4067, 09-813-2971, 038-223454
เข้าสู่เว็บไซด์บ้านสุขาวดี คลิกที่นี่ http://www.sukhawadee.net/



แล้วพบกันที่จังหวัดชลบุรีนะค่ะ






18 ความคิดเห็น:

  1. ชลบุรีมีที่เที่ยวมากมาย น่าไปเที่ยว
    เทียนไทย01

    ตอบลบ
  2. สถานที่เที่ยวแห่งนี้...เคยไปมาแล้ว ตั้ง 1ครั่งแน่ะ..เป็นพราะโรงเรียนนี่แหละจัดกิจกรรมนี้ เลยได้เที่ยวที่บ้านสุขาวดี...อยากบอกทุกคนว่า...ตัวเองก็ประทับใจเหมือนกัน...สวยมาก ๆ ๆ ๆ ยังเที่ยวชมไม่จุใจเลย...อยากไปอีก....ช่วยจัดไปอีกได้มั๊ยจ๊ะ

    ตอบลบ
  3. เป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ เคยไปเที่ยมาหลายครั้งแล้ว

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับ ...สำหรับสถานที่ที่นำเสนอ...สวยงามมากครับ...เคยไปมาแล้วครับ สนุกมากด้วย น่าจะพาครอบครัวไปเที่ยวกันบ้างนะครับ เพราะ สนุก ได้เรียนรู้แล้วยังช่วยเปิดโลกทัศน์ ให้เด็กๆด้วย...
    ...สำคัญที่สุด คือ ได้ความอบอุ่นภายในครอบครัวด้วย...
    ...เป็นบล็อกที่ดีเยี่ยม บล็อกหนึ่งครับ ...ให้กำลังใจนะครับ

    ตอบลบ
  5. เจ้าของบล็อกน่ารักดีนะครับ...

    ตอบลบ
  6. อยากไปบ้างจังเลย...จากพี่หนิงสุดสวย

    ตอบลบ
  7. สวยจริงๆ เรามีโอกาสได้ไปเพราะโรงเรียนจัดให้

    ตอบลบ
  8. ครอบคร้วมีโอกาสได้ไปเที่ยวทุกปีก็ว่าได้

    ตอบลบ
  9. เคยไปมาแล้ว น่าสนใจมาก ๆ

    ตอบลบ
  10. บ้านสุขาวดีสวยงามมากค่ะ อยากจะไปเที่ยวอีกครั้งถ้ามีโอกาสจะพาครอบครัวไปนะ

    ตอบลบ
  11. เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก
    น่าไปเที่ยวทุกทีเลย

    ตอบลบ
  12. เก่งจริงพาไปอีกซิ่ พี่ไปได้ทุกครั้งละชอบ

    ตอบลบ
  13. เคยเข้าไปเที่ยวมาแล้วจ้า

    ใหญ่โตมากเลย

    ใครว่างๆก็แวะกันไปนะจ๊ะ

    ตอบลบ
  14. น่าไปเที่ยวสุด ๆๆๆๆ เลย

    ตอบลบ
  15. อยากไปเที่ยวเมืองพระรถ

    ตอบลบ