
ภูเขา หมายถึง เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวชลบุรี ตลอดถึงประชาชนทั่วไป ที่เคยเดินทางไปมาแถบนั้น เชื่อถือว่า ศาลเจ้าแม่สามมุข สามารถให้ความคุ้มครองชาวชลบุรี และผู้ที่เคารพกราบไหว้ให้พ้นจากภยันตรายต่างๆ ได้ โดยเฉพาะการออกไปประกอบอาชีพจับปลาในท้องทะเล เขาสามมุขจึงเป็นสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของชลบุรี
ประวัติจังหวัดชลบุรี
ดินแดนที่เรียกว่าจังหวัดชลบุรี มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ ในปี 2522 ได้มีการขุดค้นทางโบราณคดี ที่ตำบลพนมดี อ.พนัสนิคม ได้พบร่องรอยของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ โคกพนมดี คือ สิ่งที่นักโบราณคดี เรียกว่า เชลล์ มาวด์ (Shell Mould) ซึ่งที่โคกพนมดเป็นเชลล์ มาวด์ที่ใหญ่โตที่สุดซึ่งยังไม่เคยพบในประเทศทางเอเชียอาคเนย์อื่น ๆ เลย ("ร่องรอยของชุมชนโบราณที่ลุ่มแม่น้ำพานทอง : เมืองโบราณ 3 : 39-40, กุมพาพันธ์ - มีนาคม 2522) จากหลักฐานทางโบราณวัตถุสถาน ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ภายในกรอบเนื้อที่ 4,363 ตารางกิโลเมตร ของเมืองชลบุรีในอดีต เคยเป็นที่ตั้งชุมชนหรือเมืองโบราณที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ 2 เมือง และนับว่าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏหลักฐาน คือ
เมืองศรีพะโร
ตั้งอยู่บริเวณบ้านอู่ตะเภา ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี หน้าเมืองมีอาณาเขตจดที่ ตำบลบางทรายในปัจจุบัน เคยมีผู้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปทองคำ สัมฤทธิ์ แก้วผลึก ขันทองคำ ถ้วยชามสังคโลก คล้ายของสุโขทัย จระเข้ปูน ก้อนศิลามีรอยเท้าสุนัข เป็นต้น เมืองศรีพะโรนี้ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นเมืองในสมัยขอมยังเรืองอำนาจอยู่ในภูมิภาคนี้ อาจจะรุ่นราวคราวเดียวกับสมัยลพบุรีซึ่งอยู่หลังยุคอู่ทอง และก่อนยุคอยุธยาคือประมาณ พ.ศ.1600-1900
เมืองพระรถ
เป็นเมืองโบราณยุคเดียวกันกับเมืองศรีพะโรหรือก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะปรากฏว่ามีทางเดิน โบราณติดต่อกันได้ระหว่าง 2 เมืองนี้ ในระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรและน่าเชื่อต่อไปว่าเมืองพระรถแห่งนี้ คงอยู่ในสมัยเดียวกันกับเมืองพระรถหรือเมืองมโหสถ ที่ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปัจจุบันอีกด้วยเมื่อ พ.ศ.2472 ได้มีผู้ขุดพบพระพุทธรูป "พระพนัสบดี" ได้ที่บริเวณตำบลหน้าพระธาตุ อำเภอ พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นพระพุทธรูปจำหลักจากศิลาดำ เนื้อละเอียด นักโบราณคดีกำหนดว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดี พระพุทธรูปที่มีลักษณะเช่นพระพนัสบดีนี้ มีอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครหลายองค์ ทุกองค์งามสู้พระพนัสบดีองค์ที่ขุดพบนี้ไม่ได้ พระพนัสบดีมีพุทธลักษณะแปลกกว่าพระพุทธรูปอื่นๆ คือ เป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนบนดอกบัว ยกพระหัตถ์ทั้งสองเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์ทั้งสอง เช่น พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา บนฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองมีลายธรรมจักร เบื้องพระปฤษฎางค์มีประภามณฑล ประทับยืนบนสัตว์ที่แปลกพิเศษกว่าสัตว์ทังหลาย เป็นภาพสัตว์ที่เกิดจากจินตนาการประติมากรผู้สร้างพระพุทธรูป คือ นำโค ครุฑ หงส์ มารวมเป็นสัตว์ตัวเดียวกัน สัตว์นั้นหน้าเป็นครุฑ เขาเป็นโค ปีกเป็นหงส์ โค ครุฑ หงส์ เป็นพาหนะของเทพเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวรทรงโค พระนารายณ์ทรงครุฑ พระพรหมทรงหงส์ เมื่อรวมเข้ากันจึงเป็นสัตว์พิเศษที่มีเขาเป็นโค มีจงอยปากเป็นครุฑ และมีปีกเป็นหงส์ ผู้สร้างอาจหมายถึงพระพุทธเจ้าอาศัยศาสนาพราหมณ์เป็นพาหนะ ในการประกาศพระศาสนา หรือหมายถึงพระพุทธเจ้าทรงชัยชนะแล้วซึ่งศาสนาพราหมณ์ก็ได้ พระพนัสบดีที่ขุดพบนี้ สูง 45 เซนติเมตร สมัยพระยาพิพิธอำพลเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นอกจากมีการขุดพบกรุพระพิมพ์เนื้อตะกั่ว สนิมแดง คราบไขขาว เมื่อ พ.ศ. 2460 ที่บริเวณ หน้าพระธาตุ มีพระพุทธลักษณะเช่นเดียวกับพระร่วงหลังรางปืนสวรรคโลก พระร่วงหลังลายผ้าลพบุรี เป็นพุทธศิลปสมัยทวารวดี พระเนตรโปนประหนึ่งตาตั๊กแตน ไม่ทรงเครื่องอลังการ พระเศียรไม่ทรงเทริดพระหัตถ์ขวา หงายทาบพระอุระ มีดอกจันทน์บนฝ่าพระหัตถ์ อาณาจักรพระเครื่องถวายนามว่า พระร่วงหน้าพระธาตุ มี 2 พิมพ์ คือ ชายจีวรแผ่กว้าง และชายจีวรธรรมดา องค์พระกว้าง 2 เซนติเมตร นับเป็นกรุพระที่เลื่องชื่อลือชาในอาณาจักรพระเครื่องยิ่งนัก นอกจากนั้น ยังขุดพบพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และพระพิมพ์เนื้อดินดิบขนาดใหญ่ บริเวณหน้า พระธาตุ วัดกลางคลองหลวง ฯลฯ โบราณวัตถุที่ขุดพบส่วนใหญ่ เป็นศิลปสมัยทวารวดี
ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจของจังหวัดชลบุรี ดังนี้.-


สวนเสือศรีราชา จัดตั้งขึ้นบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2540 ณ กิโลเมตรที่ 9 เลขที่ 341 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งห่างจากสวนสัตว์เดิมเพียง 1 กิโลเมตร โดยจัดการดำเนินงาน และเตรียมแผนงานอย่างมีมาตราฐาน เพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวทุกคน ซึ่งในปัจจุบันเสือโคร่งพันธุ์ เบงกอล และจระเข้ที่เพาะเลี้ยงโดยสวนเสือศรีราชานั้นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น มากมาย ซึ่งมีเสือโคร่งพันธุ์เบงกอล 200 กว่าตัว และจระเข้มีถึง 100,000 กว่าตัว นอกเหนือสัตว์นานาชนิด แล้วสวนเสือศรีราชายังได้มีกิจกรรมการแสดงต่างๆไว้มากมายให้ท่านได้เพลิดเพลินและประทับใจยิ่ง


การเดินทางไปสวนเสือศรีราชา
ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตรที่ 9 เลขที่ 341 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3241 ประมาณ 10 กิโลเมตร
ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวสวนเสือศรีราชา คือ 08.00 – 18.00 น. (ทุกวัน)
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 150 บาท
หมายเลขโทรสาร : +66 (0) 3829 6559



ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม
เข้าสู่เว็บไซด์บ้านสุขาวดี คลิกที่นี่ http://www.sukhawadee.net/
ชลบุรีมีที่เที่ยวมากมาย น่าไปเที่ยว
ตอบลบเทียนไทย01
สถานที่เที่ยวแห่งนี้...เคยไปมาแล้ว ตั้ง 1ครั่งแน่ะ..เป็นพราะโรงเรียนนี่แหละจัดกิจกรรมนี้ เลยได้เที่ยวที่บ้านสุขาวดี...อยากบอกทุกคนว่า...ตัวเองก็ประทับใจเหมือนกัน...สวยมาก ๆ ๆ ๆ ยังเที่ยวชมไม่จุใจเลย...อยากไปอีก....ช่วยจัดไปอีกได้มั๊ยจ๊ะ
ตอบลบเป็นสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ เคยไปเที่ยมาหลายครั้งแล้ว
ตอบลบขอบคุณครับ ...สำหรับสถานที่ที่นำเสนอ...สวยงามมากครับ...เคยไปมาแล้วครับ สนุกมากด้วย น่าจะพาครอบครัวไปเที่ยวกันบ้างนะครับ เพราะ สนุก ได้เรียนรู้แล้วยังช่วยเปิดโลกทัศน์ ให้เด็กๆด้วย...
ตอบลบ...สำคัญที่สุด คือ ได้ความอบอุ่นภายในครอบครัวด้วย...
...เป็นบล็อกที่ดีเยี่ยม บล็อกหนึ่งครับ ...ให้กำลังใจนะครับ
เจ้าของบล็อกน่ารักดีนะครับ...
ตอบลบอยากไปบ้างจังเลย...จากพี่หนิงสุดสวย
ตอบลบสวยจริงๆ เรามีโอกาสได้ไปเพราะโรงเรียนจัดให้
ตอบลบครอบคร้วมีโอกาสได้ไปเที่ยวทุกปีก็ว่าได้
ตอบลบเคยไปมาแล้ว น่าสนใจมาก ๆ
ตอบลบอยากไป
ตอบลบบ้านสุขาวดีสวยงามมากค่ะ อยากจะไปเที่ยวอีกครั้งถ้ามีโอกาสจะพาครอบครัวไปนะ
ตอบลบIt butiful travle in Thailand .
ตอบลบเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก
ตอบลบน่าไปเที่ยวทุกทีเลย
เก่งจริงพาไปอีกซิ่ พี่ไปได้ทุกครั้งละชอบ
ตอบลบเคยเข้าไปเที่ยวมาแล้วจ้า
ตอบลบใหญ่โตมากเลย
ใครว่างๆก็แวะกันไปนะจ๊ะ
โอโหน่าไปเที่ยวจัง
ตอบลบน่าไปเที่ยวสุด ๆๆๆๆ เลย
ตอบลบอยากไปเที่ยวเมืองพระรถ
ตอบลบ